การประชุมวิชาการ
เรื่อง “Unmasking Post-Flu Allergy เมื่อไข้หวัดจบ แต่ภูมิแพ้ไม่จบ”
ชื่อการประชุม เรื่อง “Unmasking Post-Flu Allergy เมื่อไข้หวัดจบ แต่ภูมิแพ้ไม่จบ”
สถาบันหลัก คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
รหัสกิจกรรม 1001-2-000-074-12-2568
สถานที่จัดการประชุม ผ่านระบบออนไลน์ zoom webinar
วันที่จัดการประชุม 22 ธ.ค. 2568
ผู้จัดการประชุม คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
กลุ่มเป้าหมาย เภสัชกร และผู้สนใจทั่วไป
หน่วยกิตการศึกษาต่อเนื่อง 1 หน่วยกิต
หลักการและเหตุผล
หลักการและเหตุผล
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โรคติดเชื้อไวรัสทางเดินหายใจยังคงเป็นปัญหาสำคัญด้านสาธารณสุขของประเทศไทย โดยเฉพาะไข้หวัดทั่วไป ไข้หวัดใหญ่ และไวรัสโคโรนา ซึ่งทำให้ประชาชนจำนวนมากมีอาการ flu-like symptoms ได้แก่ คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ จาม และระคายเคืองทางเดินหายใจ แม้การติดเชื้อจะสิ้นสุดลง แต่อาการบางส่วนยังคงค้างอยู่ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน ซึ่งมักสัมพันธ์กับการอักเสบของเยื่อบุทางเดินหายใจและภาวะความไวต่อสิ่งกระตุ้นที่เพิ่มขึ้นหลังการติดเชื้อ (post-viral airway hyperreactivity)
ในขณะเดียวกัน ปัญหามลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่นละออง PM2.5 ซึ่งมีความรุนแรงมากขึ้นเป็นลำดับในหลายพื้นที่ของประเทศ ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นหรือซ้ำเติมอาการทางระบบทางเดินหายใจให้กับทั้งผู้ป่วยเดิมและผู้ที่เพิ่งฟื้นตัวจากไข้หวัด โดย PM2.5 สามารถก่อให้เกิดอาการคล้ายภูมิแพ้ เช่น คันจมูก น้ำมูกไหล และไอเรื้อรัง รวมถึงเพิ่มโอกาสการกลับเป็นซ้ำของอาการหลังไวรัสได้อย่างมีนัยสำคัญ
ยาแก้แพ้หรือยาต้านฮิสตามีน (antihistamines) จึงเป็นกลุ่มยาที่ถูกใช้บ่อยในการบรรเทาอาการดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ยาแก้แพ้รุ่นแรก (first-generation antihistamines) ยังคงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมจากประชาชนอย่างกว้างขวาง แม้ว่าจะมีข้อจำกัดด้านความปลอดภัย เช่น อาการง่วงซึม ผลกดประสาท การทำให้ลดประสิทธิภาพการทำงานและการขับขี่ยานพาหนะ รวมถึงเกิดปฏิกิริยาระหว่างยาที่อาจเป็นอันตรายได้ ปัจจุบัน มีทางเลือกที่เหมาะสมและปลอดภัยยิ่งขึ้น คือยาแก้แพ้กลุ่ม Non-Brain Penetrating Antihistamines ซึ่งเป็นยารุ่นใหม่ที่มีความจำเพาะต่อ H1 receptor สูง ลดการผ่านเข้าสู่ระบบประสาทส่วนกลาง จึงช่วยลดอาการง่วงซึมและผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ พร้อมยังคงประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการหลังไข้หวัด และอาการระคายเคืองทางเดินหายใจที่เกิดจาก PM2.5 ได้อย่างมีหลักฐานรองรับ
ในการนี้สถานปฏิบัติการเภสัชกรรมชุมชน (โอสถศาลา) คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะร้านยาของสถาบันการศึกษาได้เล็งเห็นความสำคัญของการเสริมพูนความรู้เกี่ยวกับการประเมินผู้ป่วย การเลือกใช้ยาอย่างเหมาะสมตามหลักฐานเชิงประจักษ์ ในการจัดการและแนะนำการใช้ยาแก้แพ้ที่เหมาะสมสำหรับอาการหลังไข้หวัดและภาวะทางเดินหายใจที่เกิดจาก PM2.5 เพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแลที่มีคุณภาพ ลดความเสี่ยงจากการใช้ยาที่ไม่เหมาะสม และสนับสนุนคุณภาพชีวิตที่ดีในระดับสังคม
วัตถุประสงค์
วัตถุประสงค์
เพื่อส่งเสริมการประยุกต์ใช้ความรู้เชิงวิชาการในการดูแลผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ในทางปฏิบัติในร้านยา และสามารถเลือกใช้ยาแก้แพ้ได้เหมาะสม
คำสำคัญ
สถานปฏิบัติการเภสัชกรรมชุมชน คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วิธีสมัครการประชุม
ผู้สนใจเข้าร่วมประชุมสามารถลงทะเบียนได้ที่ - สถานปฏิบัติการเภสัชกรรมชุมชน คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Line official : @osotsala หรือ E-mail: osotsala@pharm.chula.ac.th