นายกสภาเภสัชกรรม และสมาคมชมรมต่าง ๆ เข้าพบปลัด สธ. หารือเรื่องความก้าวหน้าด้านวิชาชีพของเภสัชกรภาครัฐ เสนอพิจารณาเรื่อง การเลื่อนไหลถึงระดับชำนาญการพิเศษเช่นเดียวกับวิชาชีพอื่น

นายกสภาเภสัชกรรม และสมาคมชมรมต่าง ๆ เข้าพบ ปลัดฯ และ รองปลัดฯ สธ. วันที่ 20 ก.พ. 2567

เพื่อหารือเรื่องความก้าวหน้าด้านวิชาชีพของเภสัชกรภาครัฐ เสนอพิจารณาเรื่อง การเลื่อนไหลถึงระดับชำนาญการพิเศษเช่นเดียวกับวิชาชีพอื่น ที่เรียนหลักสูตร 6 ปี

วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567


รองศาสตราจารย์พิเศษ เภสัชกรกิตติ พิทักษ์นิตินันท์ นายกสภาเภสัชกรรม พร้อม ผู้แทน กองบริหารการสาธารณสุข และเครือข่ายวิชาชีพเภสัชกรรม เข้าพบ นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์กรกฤช ลิ้มสมมุติ ผู้อำนวยการกองบริหารการสาธารณสุข เพื่อหารือประเด็นปัญหาและความก้าวหน้าวิชาชีพเภสัชกรรม

รองศาสตราจารย์พิเศษ เภสัชกรกิตติ พิทักษ์นิตินันท์ นายกสภาเภสัชกรรม นำเสนอปัญหาวิชาชีพเภสัชกร และสถานการณ์การดำรงตำแหน่งข้าราชการของเภสัชกร (ณ วันที่ 1 สิงหาคม 2566) จากทั้งหมด 8,890 ตำแหน่ง ที่มีเภสัชกรระดับชำนาญการสูงถึงร้อยละ 63.9 ในขณะที่ตำแหน่งเภสัชกรชำนาญการพิเศษมีเพียงร้อยละ 8.2 ตอนนี้หลักสูตรเรียน 6 ปี เท่ากับแพทย์แล้ว และในปี 2563 กระทรวงสาธารณสุขมีมติสนับสนุนฝห้มีการปรับเป็นตำแหน่งเลื่อนไหลแล้ว ให้ก้าวหน้าไปถึงระดับชำนาญการพิเศษทุกตำแหน่งได้ ดังนั้นเพื่อให้เภสัชกรมีขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานพัฒนาระบบยาและเภสัชกรรมอย่างเป็นรูปธรรม ค้นหาและแก้ไขปัญหาด้านยาและสุขภาพ ส่งผลให้ประชาชนได้รับการดูแลด้านยาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา (Quality of Care) และเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย (Quality of Life) อย่างเป็นระบบ การเข้าพบผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขในครั้งนี้ เพื่อเสนอให้ท่านปลัดกระทรวงพิจารณาและให้การสนับสนุนการปรับตำแหน่งเภสัชกรเป็นตำแหน่งเลื่อนไหลถึงระดับชำนาญการพิเศษทุกตำแหน่ง เช่นเดียวกับวิชาชีพแพทย์ ทันตแพทย์ และสัตวแพทย์ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจว่าตามนโยบายของท่านปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งในเรื่องดังกล่าวได้เคยเสนอให้พิจารณาตั้งแต่ปี 2563 แล้ว แต่ยังไม่เห็นความคืบหน้า

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการดูแลความก้าวหน้าทางบุคลากรทางสาธารณสุข ว่า กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญในการดูแลทุกวิชาชีพ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจสำหรับผู้ปฏิบัติงาน โดยเฉพาะวิชาชีพเภสัชกรรมเป็นหนึ่งในวิชาชีพที่มีความสำคัญกับระบบสาธารณสุข และระบบการศึกษาเป็น Doctor of Pharmacy ที่มีหลักสูตร 6 ปี เช่นเดียวกับแพทย์ ทันตแพทย์ และสัตวแพทย์ และได้มอบท่านนายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ติดตามความคืบหน้าและนำประเด็นดังกล่าวเข้าหารือในการประชุมกระทรวง และมอบหมายให้ น.ส.เสาวลักษณ์ ฉิมจาด รองผู้อำนวยการกองบริหารทรัพยากรบุคคล สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ศึกษา และเสนอแนวทางการดำเนินงาน พร้อมหารือกับสำนักงาน ก.พ. ต่อไป

พร้อมนี้ทางคณะได้หารือกระทรวงให้พิจารณาแก้ปัญหาของกลุ่มเภสัชกรที่ถูกตรึงตำแหน่ง. และปัญหาเภสัชกรที่บรรจุเป็นพนักงานของรัฐที่มีอัตราการลาออกสูง รวมถึงปัญหาเรื่องค่าตอบแทน ที่สภาเภสัชกรรมได้มีหนังสือเสนอปัญหามาที่กระทรวงแล้ว

ในการเข้าพบ ณ โอกาสนี้ สภาเภสัชกรรม สมาคมเภสัชสาธารณสุขแห่งประเทศไทย ชมรมเภสัชสาธารณสุขจังหวัดแห่งประเทศไทย ชมรมเภสัชกรโรงพยาบาล กระทรวงสาธารณสุข ชมรมเภสัชกรโรงพยาบาลชุมชน ชมรมเภสัชกรคุ้มครองผู้บริโภคสุขภาพปฐมภูมิ (เภสัชกรเวชกรรมสังคมประเทศไทย) ชมรมเภสัชปฐมภูมิแห่งประเทศไทย และชมรมเภสัชกรสมุนไพรแห่งประเทศไทย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การขับเคลื่อนความก้าวหน้าวิชาชีพเภสัชกรจะได้รับการพืจารณาและสนับสนุนจากกระทรวงสาธารณสุข อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป